สำหรับน้องๆที่มีคำถามอื่นๆที่สงสัยนอกเหนือจากการที่ได้คุยแลกเปลี่ยนในการรวมกลุ่มกันแล้ว สามารถทิ้งคำถามไว้ได้ครับ พวกพี่ๆจะพยามหาเวลามาตอบให้ ในหัวข้อนี้ ไม่ว่าทั้งน้องๆรุ่นที่ 1 หรือ รุ่นที่ 2 หรือแม้กระทั่งพี่ๆน้องๆท่านอื่น ก็สามารถถามได้นะครับ
Trader Staff
53 comments:
ขอถามกว้างๆหน่อยละกันนะครับ
เห็นที่เขียนไว้ว่า เริ่มเลเวล2 จึงจะเริ่มมีรายได้(10% from cashflow)
อยากถามว่า ที่เลเวลใด ถึงน่าจะมีรายได้พอที่จะเลี้ยงตัวเองได้ (สมมติที่15k-20k) และพี่คิดว่าน่าจะใช้เวลาไปถึงเลเวลนั้น ประมาณกี่เดือนครับ(ตอบกว้างๆโดยเฉลี่ยก็ได้ครับ)
ขอบคุณครับ
balperfect
วิธีการเพิ่มรายได้สำหรับเทรดเดอร์ฝึกหัดนั้นจะมีอยุ่แค่ 3 วิธี คือ (ซึ่งเทรดเดอร์ฝึกหัดก็คือการฝึกหัดเทรดเดอร์ตั้งแต่ระดับแรกๆ แน่นอนว่าถึงแม้ว่าน้องอาจจะไปไม่ถึงขั้นมืออาชีพ แต่พี่ mudley ก็ใจดีในการให้ผลตอบแทนในระดับที่พวกพี่ๆยังอิจอิจฉากันเลย สำหรับเทรดเดอร์ที่มาฝึกตั้งแต่เริ่มต้น และพี่คิดว่าอาจจะไม่มีที่ไหนในบ้านเราที่ใจดีขนาดนี้ ดังนั้นพยามให้เต็มที่ครับ)
1. พยามกินเงินของพอร์ตเทรดเดอร์คนอื่นๆในช่วงเลเวลแรกๆ ของการฝึกเพื่อให้คะแนน performance ของตัวเองอยุ่ในระดับที่ดี ซึ่งจะมีผลต่อการพิจารณาวงเงินในพอร์ตส่วนตัวของเทรดเดอร์คนนั้นๆ
2. การอัพเกรดเลเวล ตาม skill ของเทรดเดอร์ ซึ่งจะมีผลทั้งวงเงิน และเครื่องมือในการเทรดที่หลากหลาย
3.ถ้าอัพเลเวลไม่ขึ้น ในเลเวล 2 เลเวล 3 ก็ สั่งสมเงินในเลเวลนั้นๆจนพอร์ตมีขนาดใหญ่โตจนมีรายได้พอใช้ เพียงแต่วิธีนี้ก็ต้องใช้เวลาอยุ๋กับกองทุนนานๆไปเลย โดยที่อาจจะทำงานอย่างอื่นไปด้วยยึดเป็นหลักเอาไว้ก่อน
ซึ่งถ้าจะให้พี่ตอบกว้างๆตามค่าเฉลี่ยแบบที่น้องบอลถาม ประมาณ เลเวล 4 ก็น่าจะมีรายได้พอเลี้ยงตัวได้ครับ ซึ่งตามค่าเฉลี่ยของเทรดเดอร์อาชีพจะไปถึงเลเวล 4 ได้นั้นจะอยู่ที่ 2 ปี แต่ถ้าน้องฝึกหนัก และ ตั้งใจมากๆจริงๆ ลมหายใจเข้าออกเป็นการเทรด อาจจะทำได้เร็วมากขึ้นกว่านั้นก็ได้ครับ
**ส่วนถ้าน้องฝึกแล้ว Skill น้องสูงมากจริงๆ ก็จะได้โอกาสการเปลี่ยนเป็นเทรดเดอร์อาชีพให้กับกองทุน และถ้าทำได้ดีมากๆ อาจจะได้หุ้นส่วนกองทุนบางส่วนฟรีจากพี่ mudley เลยด้วยซ้ำครับ **
Trader Staff
มาตอบไวดีจัง ขอบคุณมากเลยครับ
ช่างเป็นหนทางอันยาวไกลจริงๆ
เรียน พี่ ๆ Staff
- ผมอยากจะฝึกเทรดตามไปด้วย ในเลเวลขั้นต่อไป พี่ ๆ จะอธิบายรายละเอียดการฝึกเหมือนรายละเอียดการฝึกในเลเวล 1 ไหมครับ
- สมมุติผมเริ่มฝึกตามรุ่นที่ 2 (รุ่นที่ 1 เริ่มไปสองอาทิตย์แล้ว) เวลาเทียบประสิทธิผล บทลงโทษ กับรางวัลยังไงดีคับ (ถ้ากำไร ก็เพิ่มทุนตัวเองเข้าไปได้ไหมครับ แล้วขาดทุนก็ตัดทุนออก แต่จะเพิ่ม หรือตัดออกเท่าไหร่ดีอะคับ ถามเป็นไอเดียเฉย ๆ นะครับ เพราะอยากจะฝึกด้วย)
- อยากฝึกแบบเรียนรู้ขอความรู้ ผมเทรดตามกติกาของพี่ ๆ เทรดเดอร์ฝึกหัดได้เลยใช่ไหมครับ
ขอบคุณมากครับ ถามเท่านี้ก่อน
บี dethana @ gmail.com (อีเมล์ผมพิมพ์ติดกันเลยนะครับ)
ผมก็อยากฝึกครับ พอมีวิธีที่จะฝึกตามไปด้วยไหมครับ
สงสัยอยากจถามครับ
-ทำไมถึงอยากเปิดรับ(คนไทย)เป็นtraderหรือคับเพราะว่าสามารถรับคนจากที่อื่นได้เลย
-และเป้าหมายของกองทุนนี้คืออะไรคับ
(ไม่ได้กวนหรือย้อนคำถามที่ถามหรอกนะคับ อยากรู้น่ะครับ ขอบคุณครับ) :)
สำหรับน้องๆที่จะฝึกตาม ทดลองแบ่งเงินฝึกในพอร์ตของตัวเองโดยทำตามกฏกติกาของพวกพี่ๆเค้าอย่างมีวินัย โดยไม่ต้องปรับเพิ่ม-ลดพอร์ตตัวเองตาม cash flow ในแต่ล่ะสัปดาห์ก็ได้ครับ เพียงแต่ว่าพอรุ่นแรกจบแล้วให้นอกเทียบปริมาณ cash flow ที่น้องทำได้กับรุ่นพี่ที่ชนะว่าต่างกันมากน้อยแค่ไหนก็พอครับ
อ่อปัจจัยที่สำคัญของการแข่งครั้งนี้ถ้าน้องจะทำตามคือ
1.ซื้อขายในตลาดจริง
2.ห้ามซื้อ-ขาย ในเวลาตลาดทำการ
Trader Staff
สำหรับน้องที่ถามว่าทำไมเราถึงเปิดรับเทรดเดอร์นะครับ
คำตอบนะครับ
- คือตอนนี้เราไม่ได้มีความจำเป็นที่จะรับเทรดเดอร์เลยสำหรับกองทุนนะครับ เพราะเทรดเดอร์ในกองทุนก็เพียงพอและมืออาชีพกันทั้งหมดอยุ่แล้ว แต่เนื่องมาจากมีน้องๆมาขอให้พี่ Mudley ช่วยฝึกให้หน่อย เพราะอย่ากจะฝึกฝนตัวเองเป็นเทรดเดอร์แบบมืออาชีพจริงๆ พี่ Mudley ก็เลยสั่งให้พวกพี่มาช่วยดูแลน้องๆที่สนใจและมีความตั้งใจ ซึ่งถ้าน้องๆคนไหนมีความสามารถก็ถือโอกาสสนับสนุนเพิ่มเติมไปด้วยในตัวครับ
-เป้าหมายของกองทุนนี้ ถ้าเป็นในส่วนของกองทุนตัวใหญ่ข้างนอกจริงๆของพี่ mudley น่าจะเป็นการทดลอง โมเดล Financial Nuclear ที่พี่เค้าคิดมากกว่ามั้งครับ เพราะพี่เค้าตั้งขึ้นมากับหุ้นส่วนของเค้า พวกเราเองก็ไม่รู้แนวคิดของพี่เค้าทั้งหมดครับ และเนื่องจากทุกอย่างเป็นเงินของพี่เค้าเองด้วย ก็เลยไม่มีใครรู้ได้เลยครับ อันนี้พวกพี่ๆอาจจะตอบน้องไม่ได้ละเอียดต้องขอโทษครับ T_T
Trader Staff
ขอบคุณพี่ ๆ Staff และรบกวนอีกครั้งครับ ผมเข้าใจถูกไหมครับ
1 ผมเปิดบัญชีขึ้นมาใหม่อีกบัญชีนึง เพื่อที่จะมาทำการฝึกนี้โดยเฉพาะเลยนะครับ (สัปดาห์หน้าน่าจะเริ่มเทรดได้) ทีนี้เงินที่เริ่มต้นก็เท่ากับที่พวกรุ่นพี่เทรดใช่ไหมครับ
2 ซื้อขายในหุ้นที่มีรายชื่อใน Single Stock และ TDEX
3 ส่งคำสั่งซื้อขายนอกเวลาทำการของตลาด เราสามารถส่งคำสั่ง ATO หรือ ATC ได้ไหมครับ (ATC ไม่น่าจะได้)
4 กรณีที่ต้องการจะซื้อ หรือขายให้ได้หุ้นทันที จะทำยังไงครับ ถ้าต้องตั้งราคาล่วงหน้าอย่างเดียว (หรือเป็นการบังคับไม่ให้โยนออเดอร์อยู่แล้วครับ)
5 ต้องส่งคำสั่งก่อนเวลาตลาดกระพริบราคาเปิดรึเปล่าครับ (เพราะเห็นราคาเปิด ก็อาจจะปรับขยับออเดอร์ได้อีก)
6 การคิดกำไรขาดทุนรวมค่าคอมเข้าไปด้วยไหมครับ
7 Cash นี่คือเงินสดคงเหลือ
8 Portfolio Value คือมูลค่ารวมของหุ้นที่ถือ + เงินสด (รวมค่าคอมรึเปล่าครับ ต่อเนื่องจากคำถามข้างบน)
เดี๋ยวจะลองทำสรุปขึ้นมาส่งให้พี่ ๆ ช่วยคอมเม้นอีกทีนะครับว่าเข้าใจถูกไหม เผื่อเพื่อน ๆ ที่จะฝึกตามด้วยจะได้เข้าใจตรงกัน
รบกวนพวกพี่มากเหลือเกินครับ คำถามไหนถ้าพี่เคยตอบแล้ว ไม่ต้องตอบก็ได้ครับ แต่รบกวนบอกผมหน่อย จะกลับไปเปิดโพสเดิมที่เคยตอบแล้วดูเองนะครับ ขอบคุณมากครับ
บี
เอ คำถามที่ผมโพสไปใหม่ หายไปแฮะ เดี๋ยวไว้มาโพสอีกทีครับ ไปประชุมก่อง (สงสัยเรื่องรายละเอียดการส่งคำสั่งซื้อขายนะครับ)
ปล ขอบคุณพี่ทีมงานครับ
เย้ยยยย มันงอกออกมาแล้วครับ ขอโทษพี่ ๆ ด้วยครับ งงจิง ๆ เลยครับ
พี่เข้าไปเช็คคำถามให้แล้วครับ มันเข้าไปอยุ่ใน Spam ของบล็อคเสียอย่างนั้น ไม่รุ้ว่าเหมือนกันว่าทำไม สงสัยยาวมาก :P น้องคนไหนที่พิมพ์แล้วหายก็บอกได้ครับ พวกพี่จะเข้าไปเช็คเอง ถ้ามันยังเก็บไว้ใน spam อยู่นะ
1.ใช่ครับ
2.ใช่ครับ
3.Ato ได้ครับ แต่ Atc ไม่ได้ครับ เพราะเราไม่รุ้ว่าราคาจะปิดต่ำกว่าทุนที่ซื้อมั้ยครับผม
4.กรณีฝึกเอง จะเป็นข้อเสียเปรียบ เพราะ พี่ๆที่ส่งคำสั่งผ่านกองทุนจะมีออเดอร์ conditions แต่ กรณีของน้องถือว่าเป็นแต้มต่อแลกกับที่ไม่ต้องเสีย cash flow ให้กับทีมอื่นๆ หรือถ้าน้องจะปรับให้ยากขึ้นเพื่อฝึกจริงๆ ก็สามารถเพิ่ม ลดพอร์ตของตัวเองหาก cash flow แพ้พวกพี่ๆเค้าก็ได้ครับ
5.ส่งตอน pre-open ได้ครับ เพราะพวกพี่ๆถือว่า ตลาดเปิด คือช่วงเวลามีการเริ่มต้นซื้อ-ขาย กัน จริงๆแล้วเท่านั้น ดังนั้นเมื่อมีการ match กันจริงๆ พวกพี่จะไม่รับคำสั่งออเดอร์ ของน้องๆที่ส่งเข้ามาในเวลานั้นๆทันทีครับ
6.รวมครับ ของพี่เป็นค่าคอม คิดตามจริง ไม่มีขั้นต่ำครับ แต่ถ้าโบรกน้องมีขั้นต่ำ ก็อาจจะฝึกตามตรงนี้ไม่ได้ เพราะ cost ที่ไม่จำเป็นสูงเกินไป
7.ใช่ครับ
8. portfolio value = เงินสดคงเหลือ + (จำนวนหุ้น*ราคาตลาด) เนื่องจากค่าคอมนั้น น้องได้จ่ายไปตอนซื้อหุ้นตอนแรกแล้ว ซึ่งมันจะไปลดปริมาณเงินสดของน้องโดยอัตโนมัติอยุ่แล้วครับ
Trader Staff
สำหรับสูตร Trader Performance Point คือ (CF + CF Bonus)/วงเงินที่เทรดเดอร์นั้นๆดูแลอยุ่ เมื่อน้องคำนวนและเก็บข้อมูลไปเรื่อยๆ ก็จะได้ Learning Curve ของตัวน้องเอง ซึ่งเมื่อได้ Curve ตัวนี้ในระยะยาวแล้ว น้องสามารถส่งมาให้พวกพี่ดูเพื่อหาจุดเพิ่มประสิทธิภาพของน้องได้ครับ เพราะลักษณะของสไตล์เทรดเดอร์แต่ล่ะคนจะมีรูปแบบ Learning Curve ไม่เหมือนกัน ซึ่งตรงนี้จะช่วยให้ผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์ช่วยดึงฝีมือของน้องๆขึ้นมาได้อีกระดับจากการดู Curve ตรงนี้ครับ ^ ^
Trader Staff
อ่อ ตกไปนิดหน่อยตรงสูตร ได้ TPP มาแล้วอย่าลืมมา *100 ครับ
Trader Staff
พอดีเลื่อนไปประชุมตอนบ่าย ขอบคุณมากครับพี่
4 ส่งคำสั่งเป็น Condition ในแบบโปรแกรม One Click ชะมะคับ แต่ในหุ้นสั่งได้ด้วยหรอครับ สุดยอดจิง ๆ ครับ (ผมเคยใช้แต่ในฟิวเจอร์) คือผมกะจะเพิ่ม หรือลด Cash ตามตัวเลขเมื่อเทียบกับพวกพี่ ๆ เค้าอยู่แล้วครับ แต่งงกับกรณีที่จังหวะซื้อ หรือขายระหว่างวันมา เท่ากับว่าต้องยอมเสียโอกาสช่วงนั้นไปสินะครับ แต่ไม่เป็นไรครับ สู้ ๆ (ตั้งใจจะรื้อตัวเองใหม่ เอาใหม่ตั้งแต่แรกเลยครับ)
6 พอดีจงใจเปิดแบบไม่มีค่าคอมขั้นต่ำนะครับ อุอุ เพื่อให้ตอบโจทย์
กรณีแบบนี้ก็จะเล่นเทรดแบบโซน แล้วก็ใช้กราฟ Timeframe กว้าง ๆ หน่อยสินะครับ (ถ้าใช้แนวนี้ไม่น่ามีปัญหาเรื่องเสียเปรียบกับคำสั่งเรื่องของ Condition แต่ผมไม่รู้ว่าคำสั่งที่ว่า สามารถสั่งได้พิศดารขนาดไหนนะครับ) หลักการหลักคือเทรดให้ได้กำไร โดยมีกระแสเงินสดหมุนเวียนตลอดเวลา (ไอ้กระแสเงินสดหมุนเวียนนี่ยังงงอยู่ครับ แต่เข้าใจว่าเทรดลองดูแล้วจะเข้าใจเอง)
ขอบคุณมากครับพี่ ๆ เดี๋ยวสงสัยอะไรจะมาเพิ่มเติมนะครับ
บี
โอ้ว อ่านความสามารถจาก Learning Curve ได้ด้วยหรอครับ อืม ๆ สุดยอดจริงครับ
ต้องเรียนรู้อีกมากเลยครับ ขอบคุณครับพี่ ๆ รู้สึกสนุกจังเลยนะครับ (ตั้งใจจะออกมาหากินทางนี้นะครับ ปลายปีนี้ผมจะออกจากงานมาเต็มตัวละครับ ตื่นเต้น)
บี
ดังนั้น กรณีเช่นน้องทำ CF ได้ 50 แต่คนอื่นๆเกิดทำได้ 100 ทำให้ผลรวม CF + CF bonus เป็น - เมื่อไร TPP ก็จะไม่ถูกนำมาคิดเช่นกันครับ ซึ่งในตลาด inter market ค่า - นำมาคิดด้วยทำให้ TPP ของเทรดเดอร์หักหัวลงได้เช่นกัน แต่นั้นสำหรับเลเวลสูงๆครับ ในระดับแรกๆนี้ต้องปรับพื้นฐานกันก่อน จึงไม่จำเป็นต้องใช้ค่า TPP ที่เป็น - ตามที่พวกฝรั่งใช้กันครับ เพราะนั่นเค้าใช้กันสำหรับคัดเทรดเดอร์ ไม่ได้เทรนเทรดเดอร์ จึงต้องพยามตัดคนออกให้มากที่สุด เหลือแต่ระดับแนวหน้าเท่านั้น
พี่มาตอบให้ก่อนเผื่อน้องๆจะสงสัยตรงนี้กัน
Trader Staff
อาจจะต้องรบกวนพี่ ๆ แวะเข้าไปดูในกล่อง Spam ด้วยนะครับ ผมพิมพ์ยาว รู้สึกมันจะหายเข้ากล่องไปอีกละ
บี
อ้อ เลเวลสูงขึ้นก็จะมีเครื่องมือเครื่องไม้วัดผลออกมาเรื่อย ๆ สินะครับ โชคดีเหลือเกินครับ ที่ได้รับคำชี้แนะจากพี่ ๆ ครับ (ติดตามพี่ Mudley มานานละครับ)
บี
ขอบคุณมาก ๆ ที่แนะนำวิธีฝึกครับ
พี่ทีมงานครับ สงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ATO และ ATC
1. สามารถซื้อที่ ATO ได้ แล้ว ATC จะสามารถซื้อได้หรือไม่ครับ
2. กลับกันเราจะสามารถขายที่ ATO ได้ไหมครับ (กรณีนี้น่าจะเหมือน ATC เพราะราคาอาจจะขยับได้ตอนกระพริบเปิด)
บี
อีกนิดครับ การคิด Cash Flow ผมเข้าใจแบบนี้ไม่แน่ใจว่าถูกต้องหรือไม่ครับ
Cash Flow = ราคาหุ้นที่ขาย x จำนวนหุ้น
ส่วนค่าคอมมิชชั่นตอนขาย ก็เอาไปลบเงินสดออก (ค่าคอมมิชชั่นทั้งขาไป และขากลับจะนำไปตัดเงินสดเลยสินะครับ)
ปล. พอร์ตผมเปิดช้ากว่าพวกพี่รุ่น 1 ไปเกือบสามอาทิตย์ ผมจะเริ่มต้นอาทิตย์ที่ 4 พร้อมกันโดยลดวงเงินให้เท่ากับบทลงโทษของสามอาทิตย์ที่ผ่านมาเลยได้ไหมครับ หรือว่าควรจะรอไปพร้อมรุ่นที่ 2
กรณีคนเริ่มตามที่หลังพี่แนะนำยังไงดีครับ (จุดประสงค์คือ เพื่อการฝึกฝน เราน่าจะเริ่มตามรุ่นพี่ ๆ ไปได้เลยไหมครับ)
ขอบคุณอีกครั้งครับ
บี
การตั้งซื้อน้องจะตั้งซื้อวิธีไหนก็ได้ครับ แต่การตั้งขายเราจะใช้ Automatic@ไม่ได้ เพราะเราไม่รู้ราคาปิด มันอาจจะปิดต่ำกว่าทุนเราก็ได้ครับ
ดังนั้นเช่นถ้าทุนน้อง 10 บาท ราคาตลาดขณะกำลัง pre open หรือ pre close ก็ตาม อยุ่ที่ 11.00 บาท น้องก็สามารถใช้เทคนิคตั้งขายที่ 10.10 ดังนั้นน้องก็จะขายได้ค่อนข้างชัวร์ เหมือนกับการใช้คำสั่ง ATC ATO เช่นกัน เพียงแต่ล็อคว่าต่ำกว่า 10.10 ตูไม่ขายเฟ้ย เพราะขาดทุน เป็นต้นครับ
Trader Staff
ใช่ครับ Cash flow คือกำไรที่น้องทำได้จากการขายหุ้น ล็อตนั้นๆไปแล้ว โดยหักคอมมิชชั่นไปด้วยตามวิธีคิดกำไร ขาดทุนปกติ เลยครับ
เนื่องจากตอนนี้ index ลงมาค่อนข้างเยอะราคาหุ้นหลายตัวลงมาค่อนข้างมาก พี่แนะนำว่าให้น้องเริ่มต้นด้วย Cash ไม่เกินทีม Eagle ครับ
Trader Staff
ขอบคุณครับพี่ ๆ เพิ่งกลับจากไปดู Unstoppable ด่วนหยุดไม่อยู่เลยนะครับ สนุกดีครับ
งั้นแสดงว่าเรามีสิทธิในการขาย หรือซื้อช่วง Pre Close ได้สินะครับ
รวมสิทธิเป็น ก่อนตลาดเปิดเช้า, ก่อนตลาดเปิดบ่าย, ก่อนตลาดปิด (ตลาดปิดเช้ามันจะไม่มี Pre Close ใช่ไหมครับ) แบบนี้สนุกขึ้นอีกเยอะเลยครับพี่ ๆ
ไม่รู้ว่า SET เราจะร่วงหยุดไม่อยู่รึเปล่านะครับ อุอุ
บี
จุดประสงค์ของการเทรดแบบนี้ อยู่ที่การฝึกบริหารหน้าตักนะคับ อย่าพึ่งยึดติดกับวิธีการส่งออร์มากเลยคับ พยายามเน้นเรื่องการจัดการเงินที่เอาตัวรอด ในตลาดภาวะต่าง ๆ รอดจากการโจมตีของขาขึ้นของคนอื่น รอดจากการโจมตีช่วงสัปดาห์ และรอดจากขาลง กรณีที่ทีมอื่นมี cash เยอะกว่า ที่สำคัญที่สุดคือเวลาคับ ปลูกต้นไม้ต้องเอาใจใส่สม่ำเสมอ ตัวนี้เป็นตัววัดที่สำคัญ ตัวหนึ่งคับ
ไม่ได้แนะนำนะคับแสดงความเห็นเฉย ๆ แต่ศึกษากติกาละเอียดก็ดีนะคับ แต่ไม่ควรทิ้งอย่างอื่นคับ วันจันทร์นี้ลองเริ่มแข่งกับพวกพี่รุ่นหนึ่งดูสิคับ
ขอบคุณครับพี่ ๆ ต้องขออภัย ที่อาจจะทำให้พี่ ๆ กังวลนะครับ จิง ๆ คือผมอยากทราบกติกาให้ละเอียดนะครับ เลยถามมากหน่อย เพราะไม่แน่ใจว่าบางอย่างทำได้ หรือไม่ได้ (อย่างกรณีที่สามารถส่งคำสั่ง Pre Close ได้ นี่ก็เพิ่งรู้ครับว่าทำได้) เดี๋ยวจะกลายเป็นเล่นไม่ตรงกับกติกาที่พี่ ๆ เล่นกันนะครับ
พอร์ตผมน่าจะได้เปิดสัปดาห์หน้านะครับ รอโบรคโทรมายืนยัน เพราะผมรอโอนเงินเข้าไปอยู่นะครับ ไปเปิดตอนช่วงงาน Set in the City
ขอบคุณอีกครั้งครับพี่ ๆ คิดว่ากติกาทั้งหมดเครียร์หมดแล้ว แล้วเดี๋ยวจะส่งผลการเทรดไปให้ช่วยคอมเม้นครับ
บี (ถ้าผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะครับ ไม่ได้มีเจตนาร้ายอะคับ TOT พี่อย่าทิ้งผมน้า)
เพิ่มเติมอีกนิด อยากเล่ารายละเอียดอีกนิดอะคับ
ผมติดตามผลงานของ Mudleygroup มานานแล้วครับ เผอิญได้ไอเดียการเทรดจากพี่ Mudley ก็เลยตั้งใจจะเปิดพอร์ตแยก เพื่อที่จะลองฝึกตามนะครับ (เลยไปเปิดช่วงวันงาน Set in the City เพราะปีนี้ผมยังทำงานประจำอยู่ เวลาเลยยังยุ่ง ๆ อยู่)
แต่พอกลับมาที่บล๊อคอีกครั้ง ก็พบว่าพี่ ๆ ได้เปิดโครงการเทรนขึ้นมา ก็เลยอยากจะฝึกตามไปด้วย ทีนี้ผมลองนึกภาพวันจริงที่จะเทรดตามกติกาพี่เบื้องต้น แล้วมันเกิดข้อสงสัยเยอะ ก็เลยเป็นที่มาว่าถามอะไรเยอะแยะเต็มไปหมดนะครับ
สำคัญส่วนนึง เพราะผมจะเอาไปสอนน้อง ๆ ผมต่อด้วยให้เทรดไปพร้อม ๆ กัน (ผมยังมีน้องอีก 3 คน) เลยอยากรู้รายละเอียดให้ครบนะครับ
สุดท้ายนี้ผมขอบคุณพี่ ๆ อีกครั้งนะครับ
บี
ผมไม่ใช่พี่ ๆ staff คับ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเค้าเลย คับ มาแสดงความเห็นเฉย ๆ :)
ไม่เป็นไรครับพี่ ความเห็นพี่ ๆ ทุกท่านสำคัญครับ
ขอบคุณนะครับ มีพี่น้องท่านอื่นจะร่วมฝึกตามไปด้วยไหมครับ
บี (ผมไม่เคยเจอที่ไหนที่มีการให้ความรู้ และความอบอุ่นเท่าที่นี่เลยครับ เป็นอีกที่ ที่สุดยอดมาก ๆ ครับ)
ส่งออเดอร์ตอน pre-close ได้ไงอะครับ
pre-close มันคือเวลาทำการอยู่เลยครับ
สำหรับผมนะ ผมส่งออเดอร์ช่วงค่ำๆถึงก่อน9โมงเช้าครับ โดยมากจะส่งประมาณเที่ยงคืนเป็นต้นไป
ถ้าจะออเดอร์ของรอบบ่ายผมก็รอตลาดปิดเที่ยงครึ่งก่อนแล้วส่งออเดอร์ก่อนบ่าย2โมง20นาที
กติกาเรื่องไม่ให้ส่งออเดอร์ในเวลาทำการนี้ชัดเจนว่าเค้าไม่ต้องการให้เรามามัวดู มัวสนใจกับราคาตลาด realtime ครับ ดังนั้นผมไม่เห็นว่าเราต้องไปรอดู ato atc ว่ากระพริบเท่าไหร่แล้วส่งออเดอร์เลย แบบนั้นมีค่าเท่ากับเรานั่งจ้องราคา realtime
ขอนำข้อความบางส่วนที่พี่มัดเล่ย์อธิบายถึงกฎนี้มาให้อ่านดูนะครับ อาจจะช่วยลดความสับสนของหลายๆคนได้
"ห้ามส่งออเดอร์ในเวลาตลาดเปิด เพราะเทรดเดอร์ทุกคนจะต้องฝึกการเทรดแบบอ่านเกมส์ (อีกหน่อยเมื่อเรา ระดับสูงขึ้นไป จะเข้าใจว่าทำการการฝึกไม่เทรดบนราคา Realtime จะพัฒนาต่อยอดไปยัง Day Trade ที่ดีได้อย่างไรอีกด้วย)"
"น้องอาจจะงงกันเริ่ม มาถึงจะให้เทรดกันเลยหรือ เราจะฝึกกันยังไง นี่หล่ะครับคือการฝึก ขั้นแรก น้องเคยสัมผัส poker กันมาแล้ว ถึงแม้น้องไม่รุ้ไพ่ตรงกลาง Flop แต่น้องก็ยังสามารถเล่นกันมาได้ ดังนั้น การฝึกในระดับนี้คือการ ประยุกต์ความคิดสร้างสรรค์ทั้งหมดที่น้องคิดว่าจะมี ไม่ว่าทั้งจาก poker หรือประสบการณ์อื่นๆไม่ว่าจะเรื่องสัญชาติญาณ ขุดกันขึ้นมาให้เต็มที่ครับ เอามาใช้กับตลาดหุ้นในลักษณะกฏกติการที่กำหนดแบบนี้ให้ได้ เพราะราคาหุ้นตอน Real time ก็คือไพ่ตรงกลาง Flop นั่นเอง ดังนั้นน้องก็อาจจะพอมองออกบ้างว่าการฝึกเลเวลนี้ทำไมห้ามเทรด Real time เพราะเพื่อไม่ให้น้องรู้ว่าไพ่จะเป็นอะไรนั่นเอง จะรุ้ก็ต่อเมื่อตลาดพักเบรก หรือ ปิด ซึ่งก็คือการเปิดไพ่แต่ล่ะใบนั่นเอง "
^ ^
อืม ตกลงส่งคำสั่งช่วง Pre Close ตอนบ่าย ไม่ได้หรือเปล่าครับ
เพราะตอนแรกผมเข้าใจแบบที่พี่ปลาหมึกบอกนะครับ (ไม่แน่ใจตรงนี้แหละครับ เลยถาม ตรงช่วง Pre Open และ Pre Close, แต่การที่ส่งคำสั่ง Pre Close ได้ ก็เป็นการตัดสินใจว่าจะถือข้ามวันหรือไม่ เป็นการปรับพอร์ตกับเรื่องราวที่เกิดภาคบ่าย และการเตรียมพร้อมรับ Overnight Risk ไม่งั้นนี่เทคความเสี่ยงตอนตลาดเปิดวันต่อไปเต็ม ๆ โดยที่ไม่ทันแก้พอร์ต กรณีที่รู้แน่ ๆ ว่าวันต่อไปจะเป็นยังไง)
เดี๋ยวรอพี่ทีมงานมายืนยันอีกครั้ง จะได้ใช้กติกาเดียวกันนะครับ
ขอบคุณพี่ปลาหมึกครับ
บี
สงสัยพิมพ์ยาวไป คอมเม้นตกหายไปแย้ว เดี๋ยวรบกวนพี่ ๆ ช่วยขุดมาให้ด้วยครับ
เพิ่มเติมนิดนึงครับ ที่ผมสนใจเรื่องการส่งคำสั่ง Pre Open กับ Pre Close คือเป็นเรื่องของกรณีที่เราต้องการได้หุ้นทันที หรือทิ้งทันทีนะครับ ไม่ได้เน้นที่ราคาหรอกครับ
ขอบคุณพี่ปลาหมึกอีกครั้งครับ พี่ ๆ ทีมงานเดี๋ยวคงมาแก้ข้อสงสัยให้
บี
ส่งออเดอร์ช่วง pre close ไม่ได้ครับ พวกพี่รีบพิมพ์ไปหน่อย น้องไม่ต้องกังวลเรื่อง ออเดอร์นะครับ การซื้อ-ขาย ATO ATC ไม่ใช่ปัจจัยหลักของการเทรนในเกมส์นี้แน่นอนครับ (แถมเวลาพวกพี่เห็นออเดอร์พี่ Mudley เวลาเทรดในตลาดไทยเมื่อไร ไม่เคยเห็นพี่แกใช้ฟังก์ชั่น ATO กับ ATC เลยครับ แกจะส่งราคามาเผื่อตามระดับของแกเองตลอด) ส่วนที่พี่ชนะเกมส์นี้มาได้ตอนแรกเพราะเริ่มเข้าใจหัวใจของเกมส์และสามารถโยงมาเชื่อมกับ poker ที่เคยเล่นได้ ซึ่งข้อได้เปรียบนี้เราสามารถนำไปใช้ในตลาดจริงได้ด้วย สุ้ๆครับ
Trader Staff
เข้าใจแล้วครับ ขอบคุณพี่ปลาหมึก และพี่ ๆ ทีมงานครับ
บี
สรุป โทรไปหาโบรคมาวันนี้ เอกสารเพิ่งส่งถึงสำนักงานใหญ่ จะเป็นลม (เค้าว่าคนเปิดพอร์ตเยอะมาก T T)
บี (เดี๋ยวถ้าสัปดาห์นี้ไม่ทัน ก็หักวงเงินลงไปอีกละกันครับ)
ทามมายม่ายเล่นเงินกระดาษอะคับ
เข้ามาอ่านเฉย ๆ
รบกวนแนะนำหนังสือที่เกี่ยวข้องกับการเทรดที่พี่ ๆคิดว่ามีประโยชน์ หน่อยได้ไหมครับ
ซื้อ-ขาย จริง ต่างกับในกระดาษแน่นอนครับ ในกระดาษเราจับแค่ราคาอย่างเดียวจึงทำให้ math positions ได้ง่าย แต่ในสถานการณ์จริงการทำเงินไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ดังนั้นเทรดเดอร์ทุกคนที่พวกพี่เทรน จึงอยากให้มีประสบการณ์ทำเงินในตลาดได้จริงๆด้วยครับ อีกหน่อยถึงแม้ไม่ได้ทำด้วยกัน ออกไปทำเองก็ยังมั่นใจได้ว่าน้องๆมี skill ติดมือไปอย่างแน่นอน
สำหรับหนังสือการเทรด ลองอ่านหนังสือ เกี่ยวกับ ประวัติพวกผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันที่ประสบความสำเร็จดูน่ะครับว่าเค้าคิดอย่างไรกันบ้าง แล้วเราก็ค่อยตามไปอ่านต่อยอดจากสิ่งที่เค้าคิดน่ะครับ
น้องลองอ่านหนังสือ The Quant ที่พี่แนะนำไว้บนบล็อคดูก่อนก็ได้ครับ
หมายถึงพวก Market Wizard อะไรงี้เหรอครับ เมื่อก่อนผมก็ชอบอ่านนะครับ มันอ่านแล้วเพลินดี แต่ว่าอยากได้แบบที่เป็นวิธีการเทรด พวกเทคนิคการเข้า - ออก ส่วนที่เป็นวิธีการเทรด ผมเคยอ่านหลาย ๆ เล่มโดยส่วนมากหาใน Amazon เลือกที่คนแนะนำเยอะ ๆ แต่พอไปหาประวัติคนแต่ง ผมว่าส่วนมากจะมีอาชีพหลักเป็นการสอน หรือ แต่งหนังสือ ไม่ได้เทรดเป็นอาชีพเลยไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ว่าจะเชื่อถือได้ไหมอะครับ เลยอยากให้พี่ ๆ แนะนำหนังสือพวกนี้หน่อยอะครับ ?
ถามอีกอย่างนะครับ อยากรู้ว่า อย่างหลักสูตรที่เค้าเทรนพวก Prop Trade ในต่างประเทศ อยากรู้ว่าเค้าสอนอะไรอะครับ ทำไมแพงจัง เรียนไม่กี่วันเป็นแสน ๆ แล้วในความเห็นของพวกพี่หลักสูตรพวกนี้มันคุ้มราคาไหมครับ ?
อีกนิดนะครับ ผมอ่านจาก Market Wizard เห็นพวกเทรดเดอร์ดัง ๆ แบบ Paul Tudor Jones หรือ Steve Cohen เวลาให้สัมภาษณ์ แล้้วดูจอไปด้วย เค้ายังส่งออเดอร์ไปด้วยได้ แบบเป็นเรื่องธรรมดา ๆ อยากรู้ว่าส่วนใหญ่เทรดเดอร์พวกนี้จริง ๆ แล้วเค้าตัดสินใจจากอะไรอะครับ (ระบบ ,กราฟ ,Bid-offer,indicator ฯลฯ) พอคนสัมภาษณ์ถามเค้าบอกประมาณว่าเป็น Gut feel อะไรประมาณนี้อะครับ จริง ๆ แล้วมันเป็นอย่างงี้จริงเหรอครับ หรือว่าเค้ามีแผนหรือระบบมาก่อน (แต่ไม่ยอมบอก) ประมาณว่า if .... then buy/sell xxx unit หรือเปล่าครับ
ปล. ถ้าที่ผมถามเป็นความลับของกองทุนของพวกพี่ ต้องขออภัยด้วยครับ
จริงๆแล้ว หลายคนยังเข้าใจผิด คิดว่าการอ่านหนังสือแล้วจะช่วยปรับการเทรดให้ดีขึ้น แต่หลักสูตรของเทรดเดอร์เนี่ย โดยเฉพาะหลักสูตรเป็นปิด หรือ หลักสูตรของเฮดจ์ฟัน เนี่ย จะเน้นไปที่การสร้างความคิดสร้างสรรค์ กับ การ พํมนา skill ในสนามจริงครับ
พูดง่ายๆ ดังนั้นน้องจะเห้นว่าเทรดเดอร์หลายคน อย่างเช่น John Poulson , Steve Cohen เวลามีคนมาถามเรื่องการตัดสินใจในการเทรดแล้วเค้ามักจะหัวเราะ แล้วพูดประมาณว่า การถามเทรดเดอร์มืออาชีพว่ามีวิะีการตัดสินใจแบบไหน มีรูปแบบอะไรมั้ย ก็เหมือนกับ การให้ถามนักรบว่า เวลาเข้าสนามรบให้ จับดาบ แบบไหน ฟันท่าไหน ถึง ฆ่าศัตรูได้มากที่สุด น่ะครับ ดังนั้น ด้วยความรักแบบรุ่นพี่รุ่นน้อง จากที่พวกพี่เสียเวลาไปกับประสบการณ์ตรงนี้มามาก เลยแนะนำว่าน้องควรดูแค่แนวคิดของคนเก่งๆ แล้วตลุยใช้ความคิดสร้างสรรค์ของตัวเอง ฝึกรบจริงๆ เพื่อหาประสบการณ์ตรง (นี่เลยเป็นอีกสาเหตุที่ Mudley ให้ทุนน้องๆฝึกลุยในตลาดจริงเลยน่ะครับ จับดาบรบกันจริงๆไปเลย จะมามัว ทดกระดาษเล่นแบบพวกกองทุนทั่วไปทำไมกัน) แล้วอีกหน่อยน้องก็จะชนะพวกรบตามตำรา เช่น พวกกองทุนรวมทั้งหลายได้ เพราะเอาเข้าจริงๆ ในสนามรบพวกเราพูดตามตรงรบกันไม่มีรูปแบบ บางทีเราอาจจะใช้วิธีระเบิดตัวเอง เพื่อให้เพื่อนในทีมได้กำไรมากขึ้นก็มีเป็นต้นครับ ซึ่งถ้าเป็นเทรดเดอร์ในกองทุนทั่วไปไม่กล้าทำแบบนั้นแน่ๆ ^___^
สำหรับหลักสูตรแบบเก็บตังแพงๆ น้องไม่ต้องไปสนใจเลยครับ พวกนี้ส่วนมากมีอาชีพหาเงินจากการสอน
ซึ่งโดยมากแล้วเค้าจะไม่ค่อยสอนกันหรอกครับ ซึ่งถ้าสอนกันจริงๆ ก็จะเป็นเพื่อการเฉพาะเช่น ค้นหาคนมีพรสวรรค์เพิ่มเติม ดังนั้น จึงไม่มีความจำเป็นต้องเก็บเงิน ค่าวิชา เพราะ คนที่สอนสามารถหาเงินได้จากการเทรดอยุ่แล้วและมากกว่ารายได้จากการสอนด้วย ซึ่งไม่คุ้มเวลาที่ต้องมาสอนกัน และ ถ้าสอนกันเนี่ย มันเป็นเทคนิคการทำเงินของเค้าด้วย ถ้าใจไม่เปิดกว้างจริงๆทำไม่ได้แน่นอนครับ
ขอบคุณมาก ๆ ครับ คำตอบของพวกพี่ ๆ ทำให้ผมเข้าใจมากขึ้นเยอะเลยครับ
เด็ดจิง ๆ ครับ
ขอบคุณมากครับพี่
บี
รบกวนขอให้ขยยายความอีกสักนิดนะครับ
ถ้ายึดตามคำพูดของ"เก่งเทียมฟ้าหรือว่าโชค"
ประวัติผู้จัดการกองทุนที่ประสบความสำเร็จ เป็นแค่เรื่องบังเอิญ แบบอคติของผู้เหลือรอด อย่างนั้นหรือเปล่าครับ
ถ้าอยางนั้น สิ่งที่เราควรศึกษา คือข้อผิดพลาดของผู้จัดการที่ล้มเหลว มากกว่าจะศึกษาจากคนที่เหลือรอด หรือเปล่าครับ ถ้าใช่เราจะหาอ่านได้จากที่ไหนบ้างครับ เพราะผู้ล้มเหลวมักจะไม่ค่อยเล่าให้ฟัง
เป็นไปได้ไหมครับ ที่จะให้แต่ละทีม บอกเล่าข้อผิดพลาด แต่ละอาทิตย์ คนอื่นๆจะได้ศึกษาครับ
ถ้างั้นลองศึกษาประวัติของโซรอสก็ได้ครับ ทาเล็ปเองยังยกเว้นคนนี้ไว้ให้คนหนึ่ง เป็นผู้ชายที่ไม่ว่าจะโดน Black Swan ไปเท่าไรก็ไม่เคยตาย ลองค้นวีดีโอแกมาศึกษาดูว่าแกเอาตัวรอดมาได้อย่างไร อะไรที่ทำให้ Sense ของการอยู่รอดสูงมาก
ส่วนสำหรับเรื่องการบังเอิญหรือเรื่องการสอดคล้องกัน ต้องดูให้ละเอียดถึง Process การกระทำของผู้จัดการกองทุนแต่ล่ะกองนั้นๆด้วยครับ ถ้าน้องพูดถึงการอยุ่รอดและการประสบความสำเร็จของเฮดจ์ฟันแล้ว คำตอบคือ ETF ครับ เฮดจ์ฟันประเภทปิดที่ไม่เคยมีประวัติการล้มเลย จะเน้น ETF เป็นหลัก แต่คนทั่วไปพอรู้คำตอบแล้วก็จะประมาณว่า เราต้องเจ๋งกว่านั้น ก็จะกระโดดไปจับ product อื่นๆ โดยไม่มี ETF หรือ Underlying รองรับ สุดท้ายก็จะตกอยุ๋ในวงล้อเกมส์แห่งโชคชะตา แบบที่ Taleb บอกเอาไว้นั่นเองครับ
ซึ่งพอบอกคำตอบตรงนี้ไปแล้ว ถามว่าจะมีคนทำตามมั้ย คำตอบก็น้อยคนล่ะครับ เพราะคนในตลาดทุนที่เข้ามา ล้วนมีความเชื่ออยุ๋ในใจว่าเราแน่กว่าคนอื่น แน่นอนโดดไปเล่นพวก product เจ๋งๆเร่งผลตอบแทนกันเล้ย สุดท้ายก็ไม่รอดวงล้อแห่งโชคชะตาเช่นกันครับ
สำหรับพวกพี่นั้น พี่ mudley ย้ำอยุ่เสมอว่าไม่จำเป็นต้องไปแสดงว่าเราเก่งกว่าใคร เล่น product ที่คนอื่นหัวเราะเราว่าติงต๊อง เฮดจืฟันไมไม่เล่นเครื่องมืออะไรที่ซับซ้อนกว่านี้ ผลตอบแทนก็ได้ไม่เยอะ ทำก๊อกๆแก๊กๆของเราไป แล้วค่อยต่อยอด ไปเนี่ยหล่ะ แล้วจะประสบความสำเร็จแบบรอด จากเทพีแห่งโชคชะตาไปได้ครับ ^__^
**สุดท้ายสรุปจากประวัติกองทุนที่พี่ได้ศึกษามาบ้าง จะประสบความสำเร็จได้ ก็เพราะ ไม่กระโดดไปเล่น อะไรที่มันเจ๋งกว่านั้นเนี่ยหล่ะครับ โซรอสเอง ยังซื้อ Gold ETF เลย ทำไมเค้าไม่เล่น Gold future ล่ะทั้งๆที่อเมริกามีเครื่องมือมากมายกว่านั้น เป็นต้นครับ **
อ่ะตอบไว้อีกล่วงหน้า เดี่ยวเผื่อจะมีน้องมาถามอีกว่า ETF มันเพิ่งมีมาช่วงหลังนี้เองไม่ใช่หรอ แล้วเฮดจ์ฟันที่เก่ากว่านั้นล่ะ
คำว่า ETF ก็คือการย่อส่วนจำลองการถือ การลงุทนของหลักทรัพย์ตามจริงที่เหล่า ETF นั้นอ้างอิง ถามว่าก่อนมี ETF กองทุนเค้าทำไงกัน เค้าก็ซื้อหลักทรัพย์นั้นตามสัดส่วนจริงแทนไปเลยโดยตรงครับ
ดังนั้นเฮดจ์ฟันจะพยามลงทุนใน index product ทุกชนิิในโลก ที่เป็นหลักทรัพย์แท้จริงด้วย เพราะสิ่งเหล่านี้มันล้มหาย ตายยาก ยกเว้นจะล้มเลิกระบบทุนนิยมเป็นต้นครับ
ส่วนเฮดจ์ฟันที่น้องเห็นเจ๊งๆกัน ก็เป็นพวกทำธุรกิจเลียนแบบน่ะครับ เป็นเฮดจ์ฟันพวกแบงค์ ไม่ก็เคยอยุ่ธุรกิจเงินทุนหลักทรัพย์ อาจจะโชคดีได้จังหวะถูกเทรนตลาดดังแล้วก็ขนเงินออกมาตั้งบ้าง เหมือนกับว่า พอเราเห็นคนนี้เค้า ทำธุรกิจซ่อมรถแล้วดี ก็จะไปพยามทำตามเค้าโดยที่ไม่รู้จักแม้กระทั่งเครื่องยนต์กลไกว่าแท้จริงแล้วเป็นอย่างไร ประมาณซื้อตำราการซ่อมรถมาแล้วกะรวยทำตามเลย เป็นต้นครับ พอมีปัญหาที่ลึกซึ้งกว่านั้นขึ้นมา ก็ไม่รอด แก้ไขไม่ได้ fund ก็ต้อง Shut down ไปครับ
ขอบคุณมากครับพี่ เด็ดขาดอีกแล้ว
บี
สุดยอดเลยครับพี่ นึกถึงที่ อองซาน ซูจี พูดได้ว่า "Hope for the best and prepare for the worst"
ไม่ทราบว่าตอนนี้ยังเปิดรับสมัคร training trader อีกรึเปล่าครับ
Post a Comment