วิทยาศาสตร์รังแกฉัน

เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมนักวิทยาศาสตร์ หลายๆคนถึงไม่ประสบความสำเร็จ ในตลาดการเงิน ได้เท่ากับ นักคณิตศาสตร์ และนักเศรษฐศาสตร์ ก็เพราะรูปแบบการเรียนรุ้ที่เราถูกปลุกฝังการคิดแบบวิทยาศาสตร์มานั่นเอง วิทยาศาสตร์เป็นสิ่งที่ดี แต่ระบบการคิดแบบวิทยาศาตร์นั้นมีจุดอ่อนมากมายในระบบเกมที่ต้องดวลกับผู้คน เราใช้วิทยาศาสตร์ในการทำเครื่องมือการรบที่ทรงอานุภาพ แต่เราใช้คณิตศาสตร์และจิตวิทยาในการวางแผนการรบ ดังเช่นไอสไตน์ที่บอกไว้ว่าแท้จริงแล้วจินตนาการของคนต่างหากที่สำคัญกว่าความคิด วิทยาศาสตร์สอนให้เรามองระบบโดยมีตัวเปรียบเทียบมาตราฐานอยู่เสมอ เช่นมาตรวัดเวลาคือการสั่นของโมเลกุลอะตอม หรือแม้แต่การวัดความเร็วต่างๆก็ต้องเทียบกับอัตราการเคลื่อนไหวของตัวเปรียบเทียบเช่นกัน แต่พอมาในตลาดเงินเราจะเห็นภาพเช่นถ้าเราเห็นราคา 5 บาทมา 10 บาท เราจะรุ้สึกว่าแพงเพราะเราได้เปรียบเทียบโดยไม่รู้ตัวนั่นเอง แต่ถ้ามันวิ่งไปถึง 20 บาทเราจะรุ้สึกว่า เอ ทำไมตอนนั้นเราไม่ทำไรสักอย่าง เพราะ 10 บาทตอนนั้นเมื่อเทียบกับ 20 บาทตอนนี้มันถูกเหลือเกิน เป็นต้น การเปรียบเทียบทางวิทยาศาสตร์ช่วยให้เราวิเคราะห์ระบบอย่างละเอียดได้ แต่ทำให้มุมมองภาพรวมเราเสียไป การฝึกคณิตศาสตร์อยู่สม่ำเสมอจะช่วยปรับจูนความคิดเราให้มองอย่างเป็นกลางได้ เราจะมองทั้งภาพรวมว่ามันควรจะเป็นอย่างไร และมองส่วนย่อยได้ไปพร้อมกันด้วย หลังจากนี้ blog จะอัดแน่นไปด้วยคณิตศาสตร์ที่จำเป็นต่อการเทรด หวังว่าถ้าเพื่อนมีเวลาก็มาอ่านสนุกๆเพลินๆได้นะครับ เพราะผมคงต้องลับสมองด้านคณิตศาสตร์หน่อย เพราะเทรดเดอร์ระดับโลกที่นุ่นต่างมีความเข้าใจmath ในเกณฑ์ระดับสูงเลยทีเดียว ^ ^